ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนวิชาภาษาไทย
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
06-กันยายน-2540
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
การประชุมวิชาการระดับชาติ |
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา |
พ.ศ. 2562 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
สาเหตุที่ลาออก 1 :
สิ้นสุดระยะเวลาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
ในทัศนะของดิฉันเห็นว่า การศึกษานั้นไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคุณครูหรือนักเรียนก็ตาม ในปัจจุบันมุมมองของสังคมต่อการศึกษาไทยนั้นมักเป็นไปในแง่ลบเพราะมีบุคลากรบางส่วนที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม กระทั่งส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ในแง่ลบของการเป็นครู แม้แต่ในการเรียนการสอนบางเรื่องที่สังคมมองว่าล้าสมัย ไม่มีประโยชน์อย่างแท้จริง หากแต่ในมุมมองของดิฉันกลับเห็นว่า การเรียนการสอนในระบบของไทยนั้น คือการสอนให้นักเรียนระดับต้นได้เรียนรู้ในเรื่องพื้นฐานที่ควรรู้ เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น หากมองว่าเรื่องที่ถูกสอนในโรงเรียนเป็นสิ่งที่นำมาใช้ไม่ได้จริง ดิฉันเห็นว่านั่นเป็นเพราะผู้ตัดสินได้ตัดสินอย่างไม่พิจารณา เพราะดิฉันคิดว่า การศึกษาคือเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้ แม้แต่ในการสอนภาษาไทยที่เป็นเรื่องพื้นฐานของคนไทยหรือแม้แต่วิชาประวัติศาสตร์ที่สอนให้เราได้รู้จักรากเหง้าของความเป็นตัวเองเพื่อให้เกิดสำนึกและรักษาความเป็นไทยของเราไว้อย่างภาคภูมิ หากผู้เรียนมีความใฝ่รู้มากพอ นักเรียนจะสามารถนำความรู้จากในห้องเรียนไปต่อยอดความรู้เพิ่มขึ้นต่อไปได้ แต่ในทางเดียวกัน วิธีการสอนของครูก็มีความสำคัญต่อการรับสารของเด็กด้วย เพราะแม้จะสอนเรื่องเดียวกัน แต่ด้วยวิธีที่ต่างออกไปก็อาจส่งผลต่อความสนใจในการรับสารของนักเรียนได้ ในฐานะที่ดิฉันคือหนึ่งในผู้ที่เคยเป็นนักเรียนในระบบการศึกษาของไทยมาก่อน ดิฉันเป็นหนึ่งคนที่ได้รับแรงบันดาลใจในการเป็นครูมาจากครูท่านหนึ่งที่สอนดิฉันและนักเรียนคนอื่น ๆ ด้วยความรักในสิ่งที่สอนและสอนให้นักเรียนรักในสิ่งนั้นอย่างที่ท่านรักเช่นเดียวกัน ฉะนั้น ในทัศนคติของดิฉัน การศึกษาของไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าระบบของที่ใดเลย แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการสอนของครู และตัวนักเรียนเองว่าใฝ่รู้และรู้จักนำไปปรับใช้หรือต่อยอดมากเท่าใด
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่มีความร่ำรวยทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมากสืบมาแต่อดีต หลักฐานทางวัฒนธรรมนั้นมีมากมายให้เราเห็นได้ทั่วไป ทั้งในชีวิตประจำวัน ประเพณีต่าง ๆ สถาปัตยกรรม วรรณคดี เป็นต้น แม้ว่าปัจจุบันความเจริญทางเทคโนโลยีและการหลั่งไหลทางวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ จะเข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตเราเป็นอย่างมาก แต่วัฒนธรรมไทยก็ยังไม่ถูกกลืนกินไป นั่นเป็นเพราะวัฒนธรรมของเรามีการอนุรักษ์สืบสานจากผู้ที่เล็งเห็นคุณค่าและความสำคัญของความเป็นเรา ซึ่งผู้อนุรักษ์ส่วนใหญ่มักเป็นชนชั้นสูงหรือผู้มีอำนาจต่าง ๆ ที่มีบทบาทในการกำหนดความเป็นไปของกระแสสังคม ลักษณะสำคัญในตัวผู้อนุรักษ์คือผู้ที่มีความเสียสละ ผู้ที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนแต่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ผู้อนุรักษ์ต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจของตนเองและอุทิศภูมิปัญญาเหล่านี้ให้เป็นสมบัติของชาติเพื่อให้ลูกหลานภายภาคหน้าได้มีวัฒนธรรมที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเราได้สืบสานต่อไป แต่ในทางกลับกัน หากกลุ่มผู้มีอำนาจเหล่านี้ไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ส่วนรวมแต่ยึดเอาเพียงประโยชน์ส่วนตน วัฒนธรรมของเราก็คงถูกทำลายและถูกกลืนกินไปจนสูญสิ้นในไม่ช้า ดังนั้น ไม่ว่าสังคมจะเป็นไปในทิศทางใด ก็ล้วนขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้มีอำนาจที่เปรียบเสมือนหัวเรือหลักในการพัฒนาและสนับสนุนความเจริญก้าวหน้าทางวัฒนธรรมของคนในประเทศ
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการคือสองสิ่งสำคัญที่เชื่อมโยงกันซึ่งเราทุกคนพึงมี ประการแรก การสร้างกัลยาณมิตรหรือมิตรแท้ คือสิ่งที่เราควรมีและควรเป็น กล่าวคือ ก่อนที่เราจะมีได้ เราควรให้เสียก่อน คือให้ความรัก ความหวังดี ให้มิตรภาพและน้ำใจที่แท้จริง เมื่อให้ด้วยใจจริงผู้รับย่อมรู้สึกได้และให้ด้วยใจจริงกลับมา ทั้งนี้ การมีมิตรแท้คือสิ่งสำคัญเพราะมนุษย์เราคือสัตว์สังคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน สื่อสารกัน เมื่อมีมิตรแท้ย่อมแปลว่า จะไม่มีการเบียดเบียนกันด้วยความไม่จริงใจ เมื่อไม่มีความไม่จริงใจก็ย่อมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ความสำคัญของมิตรแท้คือการที่มิตรจะปราถนาและชักนำให้เราได้พบเจอกับสิ่งดี ๆ มิตรจะกล้าตักเตือนห้ามปรามเมื่อเราทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม ดังคำกล่าวที่ว่า 'คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล' ซึ่งการแยกแยะมิตรแท้กับมิตรเทียมนั้นย่อมอาศัยหลักสำคัญประการต่อมาคือ โยนิโสมนสิการ คือรู้จักคิดวิเคราะห์ แยกแยะ ว่าสิ่งใดเหมาะสมสิ่งใดไม่เหมาะสม สิ่งใดควรใกล้สิ่งใดควรหลีกห่าง หากทำแล้วจะเกิดผลอะไรตามมา การรู้จักคิดวิเคราะห์ แยกแยะนี้ มีหลักหนึ่งที่ดิฉันใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตคือ 'การเอาใจเขามาใส่ใจเรา' สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ผู้คิดรู้จักคิดวิเคราะห์ในมุมมองที่ต่างออกไปเท่านั้น แต่ยังทำลายความเห็นแก่ตัวในใจของผู้คิดลงอีกด้วย ให้รู้จักนึกถึงจิตใจของผู้อื่นมากขึ้นว่าผู้อื่นก็เป็นมนุษย์ธรรมดาเช่นเดียวกับเรา มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเรา เรารู้สึกไม่ดีเช่นไรเขาก็ย่อมไม่เป็นสุขในห้วงอารมณ์เช่นเดียวกันนั้น เมื่อเรารู้จักนึกถึงจิตใจของผู้อื่นมากขึ้น ก็ย่อมรู้จักการวางตัวที่เหมาะสม เมื่อวางตัวเหมาะสม ก็ย่อมสร้างความพึงใจแก่ผู้อื่น เมื่อผู้อื่นพึงใจ ก็ย่อมมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กันที่สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นกัลยาณมิตรที่ดีในอนาคตได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาหรือด้านใดก็ตาม สองหลักนี้ถือเป็นหลักสำคัญในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือในที่ทำงานอื่น ๆ เมื่อทุกคนมีสองหลักเป็นหลักในการดำเนินชีวิตเพื่ออยู่ร่วมกัน ก็ย่อมสร้างสภาพแวดล้อมอันดีและมีความสุขในการอยู่ร่วมกันในสังคมได้