ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสังคม ครูแนะแนว
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
15-กุมภาพันธ์-2540
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
วิชาเอก :
เศรษฐศาสตร์การเมือง
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
-มีความสามารถด้านการพูด การนำเสนองาน
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
เจ้าหน้าทรัพยากรบุคคล
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
ดิฉันมองว่าการศึกษาไทยยังคงมีค่านิยมการเรียนเพื่อไปต่อมหาวิทยาลัย ยังคงมองว่าการเข้ามหาวิทยาลัยคือคนที่เก่งโดยที่ตัวเด็กอาจไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่ตนเองชอบนัก แต่เพราะค่านิยม สิ่งที่สังคมคาดหวังว่าการที่พวกเขาต้องเรียนอย่างหนักเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อจบออกมาจะได้สบาย มันเป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะหากเด็กที่คิดแค่ว่าจะเข้ามหาลัยเพื่อจะได้เรียนให้จบโดยไม่คำนึงถึงความชอบตัวเอง สิ่งที่ตามมาคือพวกเขาจะเรียนไม่จบ หรือแม้แต่เมื่อจบมาแล้ว อาจไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน อย่างที่เห็นในปัจจุบัน มีเด็กจบออกมาในตลาดแรงงานจำนวนมาก และความต้องการตลาดแรงงานก็มีจำนวนมากเช่นกัน แต่เด็กจบใหม่กว่าครึ่งกลายเป็นคนว่างงานเนื่องจากคณะที่จบไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน
ในฐานะที่ดิฉันเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความต้องการเป็นครู แม้ไม่ได้จบวิชาเกี่ยวกับครู แต่มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเป็นกระบอกเสียง ที่จะบอกเล่าประสบการณ์ของตนเอง และของผู้อื่นที่ดิฉันได้ไปศึกษามาให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานต่อไป ดิฉันมองว่าทุกคนสามารถก้าวเข้าสู้ชีวิตการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตราบใดที่ได้รับการชี้แนะอย่างดีและใส่ใจ
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ดิฉันมองว่าสังคมไทยมีลักษณะแบบ "บนลงล่าง"คือ การเคารพผู้ที่สูงอายุมากกว่าเรา ดิฉันไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีนะคะ มันคือวัฒนธรรมอันดีของสังคมไทยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่แฝงอยู่ภายในระบบนี้คือการที่เด็กเชื่อฟัง ยอมรับและไม่กล้าแสดงความคิดเห็นต่าง ออกมาเนื่องจากการกลัวที่จะถูกตำหนิ แต่ดิฉันเชื่อนะคะว่าในปัจจุบัน การพัฒนาเทคโนโลยี และการเข้ามาของโลกาภิวัตน์ ทำให้โลกของการแสดงความคิดเห็นเปิดกว้างมากขึ้น เด็กในปัจจุบันตระหนักถึงสิทธิของตัวเองมายิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
ความเห็นต่างจะช่วยพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น เหมือนกับน้ำถ้าหากมันไม่ขยับเป็นน้ำนิ่งๆอยู่ในบ่อ น้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำเสีย แต่หากน้ำนั้นได้รับการขยับ หรือเกิดพายุ น้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำดี เนื่องจากน้ำได้รับออกซิเจนเข้าไปนั่นเอง สิ่งที่ดิฉันอยากจะทำให้เกิดขึ้นในสังคมคือการที่ทุกคนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าวิพากษ์ และทุกคนยอมรับฟังความเห็นต่าง สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
และดิฉันเชื่อนะคะว่าสังคมไทยยังต้องการบุคลากรที่พร้อมเปิดรับความเห็นต่าง ยอมรับ และรับฟังความเห็นของเด็กๆซึ่งเป็นอนาคตต่อไป
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :