ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนวิชาฟิสิกส์ หรือ ครูสอนวิทยาศาสตร์ทั่วไป
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
30-ตุลาคม-2539
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
1.จัดทำวิจัยประกวดเรื่อยๆ
2.สอนวิทยาศาสตร์ทั่วไป
3.ทำอาหาร ขนมไทย
4.รับจัดผ้าจัดดอกไม้ในงานต่างๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานดีเด่น ประเภท Poster Presentation เรื่อง การสร้างแบบจำลองบนแลตทิซอย่างง่ายสำหรับการระบาดของโรคมือ เท้า และปาก ร่วมกับผลการเคลื่อนย้ายประชากร |
มหาวิทยาลัยนเรศวร |
2561 |
รับรางวัลโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับอาชีวศึกษา ส่งประกวด 3 โครงงานได้รับรางวัลที่ 1,2,3 |
อาชีวศึกษาจังหวัดอุทัยธานี |
2562 |
รับรางวัลโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับอาชีวศึกษา รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 |
อาชีวศึกษาเขตภาคเหนือ |
2562 |
รับรางวัลงานวิจัยดีเด่น |
Startup Thailand |
2562 |
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
ผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ ชำนาญการ
สาเหตุที่ลาออก 1 :
ครบเวลาการฝึกสหกิจศึกษา
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
สาเหตุที่ลาออก 2 :
ครบเวลา
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
การศึกษาไทยในปัจจุบัน เป็นยุคสังคมแห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง มีหลากหลายรูปแบบให้มนุษย์ได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็วโดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาในสถานศึกษาของไทย เพื่อให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ที่ไร้ขอบเขตภายใต้จินตนาการของมนุษย์ที่สร้างขึ้น การศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่และใหญ่พิเศษ สิ่งที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ คอมพิวเตอร์และระบบอินเตอร์เน็ท สถานศึกษาทุกแห่งมีความต้องการใช้เท่า ๆ กัน ความรู้ความเข้าใจที่ทุกคนต้องเข้าไปให้ถึงโลกแห่งสังคมการเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีเป็นจะทำให้เกิดคุณค่าและประโยชน์สูงสุดต่อตัวเอง แต่ในทางกลับกันหากใช้อย่างผิดวิธี ก็อาจทำให้เกิดความสูญเสีย ก็เป็นได้
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ในภาวะปัจจุบัน สังคมประสบปัญหาที่เกิดจากการกระทำวัยรุ่น ซึ่งเป็นบุคคลในวัยเรียน เป็นนักเรียนนักศึกษาที่ยังอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดาและผู้ปกครอง ได้มีพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์ของสังคม อาทิ เช่น
- การทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย
- การดื่ม และเสพของมึนเมา เสพสิ่งเสพย์ติด
- การมีพฤติกรรมทางเพศก่อนวัยอันสมควร
- การมีพฤติกรรมทางเพศที่ฟุ่มเฟือย ไม่เลือกคู่
- การขายบริการทางเพศ
- การก่อกวนสร้างความเดือดร้อนให้สังคมหลายรูปแบบ
- บิดามารดาและผู้ปกครอง ปกครองบุตรหลานไม่ได้
ทุกปัญหาที่กล่าวมาล้วนเป็นปัญหาของสังคมอยู่ในระดับที่เรียกว่า วาระแห่งชาติ ซึ่งทุกคนในสังคมต้องร่วมมือกันแก้ไข เพื่อให้ปัญหาลดน้อยลงหรือหมดไป
องค์กรที่สำคัญที่สุดซึ่งใกล้ชิดเยาวชนมากที่สุด ได้แก่ ครอบครัวของเยาวชนและสถานศึกษาที่เยาวชนศึกษาอยู่ ซึ่งมีหน้าที่ให้การศึกษา อบรมบ่มนิสัย ประคับประคอง อุ้มชู ให้ความรัก ความอบอุ่น ตลอดจนความเอื้ออาทร ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกระทำและพฤติกรรมของเยาวชนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ
จากประสบการณ์ในการเป็นครูมา 30 ปี พบว่านักเรียนมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไม่พึงประสงค์นั้นเกิดจากการเลี้ยงดูเบื้องต้นเกือบทั้งสิ้น เช่น
- การให้ความรักและให้ทุกอย่าง รวมถึงการตามใจจนไร้ขอบเขต
- การดุด่าไม่ยอมรับฟังอย่างไรเหตุผล
- การทอดทิ้งให้อยู่โดยลำพัง
- การให้เงินและเครื่องอำนวยความสะดวกมากเกินไป
- การปกป้องเข้าข้างอย่างผิด ๆ ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง
- การยอมให้กระทำในสิ่งที่ผิดๆ และการกระทำบางอย่างก่อนวัยอันสมควร
- การกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมของบิดามารดา และผู้ปกครองให้เยาวชนดู
นอกจากวัฒนธรรมการเลี้ยงดูอย่างผิดๆ จากครอบครัวมีอิทธิพลต่อเยาวชนแล้ว การสอนและการอบรมบ่มนิสัยของครูอาจารย์ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยต่อพฤติกรรมของเยาวชน เช่น
- ครู เปลี่ยนจากการเป็นครูเป็นผู้ให้ความรู้
- ครู เอาใจใส่นักเรียนซึ่งเป็นศิษย์น้อยเกินไป
- ครู ไม่ยอมแก้ไขสิ่งที่นักเรียนกระทำผิด
- ครู ไม่กระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์
- ครู ปล่อยภาระการแก้ไขพฤติกรรม และปกครองนักเรียนให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองเพียงฝ่ายเดียว
- ครู ไม่สามารถลงโทษนักเรียนแบบครู และศิษย์เหมือนในอดีต
- ครู ปกครองศิษย์ไม่ได้
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นสาเหตุสำคัญต่อพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนของเยาวชนทั้งสิ้น องค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างบุคลกรที่เข้มแข็งให้บ้านเมืองทุกฝ่าย ซึ่งหมายถึง ครอบครัว สถานศึกษา ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่งเป็นกำหนดนโยบายทั้งในการศึกษาเล่าเรียน และการปกครองนักเรียนหรือเยาวชนต้องหันกลับมาทบทวนการเลี้ยงดู การให้การศึกษาและการอบรมบ่มนิสัย การให้ความรับผิดชอบและการให้รางวัล การลงโทษเยาวชนของไทยใหม่ดีไหมครับ เพื่อสังคมไทยจะได้มีบุคลากรที่มีความเข้มแข็งทั้งด้านระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ความสามารถมาพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติบนเวทีโลกอย่างสง่างามต่อไป
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
โยนิโสมนสิการเป็นกระบวนการคิด เป็นวิธีการที่ให้บุคคลมีหลักการและวิธีการคิดที่ก่อให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้ในกระบวนการสอน ขอใช้ในความหมายง่าย ๆ ว่า โยนิโสมนสิการ คือ กระบวนการคิดหาเหตุ หรือกระบวนการพิจารณาหาเหตุ
เหตุ คือ อะไร เหตุ คือ เงื่อนไขจำเป็นที่ทำให้เกิดสิ่งหนึ่งตามมา สิ่งที่ตามมาเรียกว่า ผล เหตุและผลมีความสัมพันธ์โยงถึงกัน ดังนั้น ถ้ารู้เหตุ ก็สามารถรู้ผลได้ หรือรู้ผลก็โยงไปหาเหตุได้ แต่ในการค้นหาเหตุได้ ต้องมีพื้นฐานความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ถ้ามีความรู้มาก ก็มีโอกาสตรึกตรองถึงความสัมพันธ์ของเหตุและผลได้ลึกและละเอียดมากตามไปด้วย ดังนั้น ก่อนการพิจารณาเหตุและผล จึงต้องมีความรู้ หลักการ กฎเกณฑ์ ที่ตรงกับความเป็นจริงเป็นเบื้องแรก
ความรู้ที่เป็นพื้นฐานความรู้นั้นมาจากไหน คำตอบ คือ ความรู้เหล่านั้นมาจากการรับรู้จากภายนอก หรือ ปรโตโฆษะ หรือ สิ่งเร้า หรือ ประสบการณ์ หรือ จากการเรียนรู้ ซึ่งเริ่มต้นจากมีผู้แนะนำ ชี้ทาง ในสิ่งที่ถูก หรือ กัลยาณมิตร เป็นผู้ที่หวังดีที่จะให้เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี ด้วยเหตุที่คุณลักษณะของกัลยาณมิตรประกอบด้วย
ปิโย มีความน่ารัก ความน่ารักเป็นฐานที่ทำให้เกิดความสบายใจและสร้างความสนิทใจ ชวนให้อยากเข้าไปใกล้ชิด การทำตนให้เป็นที่น่ารักนั้นมีหลักธรรมอื่นมาเสริมอีกหลายข้อ เช่น สังคหวัตถุ ธรรมทำให้งาม พรหมวิหาร
ครุ มีความน่าเคารพ มีความไว้วางใจ จากฐานความประพฤติที่สมควรตามสถานภาพ เป็นเหตุก่อให้เกิดความไว้วางใจ เป็นที่พึ่งได้และมีความปลอดภัย
ภาวนีโย เป็นผู้ปฏิบัติได้จริง ทั้งในด้านความคิด ความรู้และการปฏิบัติ พัฒนาและปรับปรุงตนอย่างสม่ำเสมอ เมื่อผู้ใดได้อยู่ใกล้ชิดก็ได้ประโยชน์ ระลึกถึงด้วยความซาบซึ้งและภูมิใจ
วัตตา จ รู้จักพูดให้เกิดประโยชน์นำไปสู่ผลที่ต้องการ ให้คำปรึกษาที่ดี แนะนำ ตักเตือน ชี้แจง ชี้ประเด็นให้เกิดความรู้ ความเข้าใจได้ง่าย
วจนกฺขโม อดทนต่อถ้อยคำ หรือพร้อมรับฟังถ้อยคำด้วยความอดทน ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียว ฟังได้ไม่เบื่อ ทั้งในข้อปรึกษา วิพากษ์ วิจารณ์ ข้อเสนอ หรืออื่น ๆ
คัมภีรญฺจ กถํ กตฺตา รู้จริง แถลงเรื่องลึกล้ำได้ ถ่ายทอดเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่าย และเรียนรู้เรื่องที่ลึกซึ้งได้
โน จฏฺฐาเน นิโยชเย ไม่แนะนำชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสีย แนะนำแต่ทางที่ดีมีประโยชน์