ประวัติคนหางาน
ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูประถม ครูสังคมศึกษา  
ประเภทของงาน :
งานประจำ  
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000  
สถานที่ต้องการทำงาน
ภาค :
xxxx  
จังหวัด :
xxxx  
เขต/อำเภอ :
xxxx  
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ :
xxxx 
นามสกุล :
xxxx 
เพศ :
ชาย  
วัน/เดือน/ปีเกิด :
01-กันยายน-2536  
อายุ :
30  
สัญชาติ :
xxxx 
เชื้อชาติ :
xxxx 
ศาสนา :
xxxx  
ส่วนสูง :
xxxx 
น้ำหนัก :
xxxx 
ตำหนิ :
xxxx 
กรุ๊ปเลือด :
xxxx 
สถานที่เกิด :
xxxx 
โรคประจำตัว :
xxxx  
สถานะความเป็นอยู่ :
xxxx 
สถานะครอบครัว :
xxxx 
สถานะทางทหาร :
xxxx 
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ที่อยู่ :
xxxx  
แขวง/ตำบล :
xxxx  
เขต/อำเภอ :
xxxx  
จังหวัด :
xxxx  
รหัสไปรษณีย์ :
xxxx 
เบอร์โทรศัพท์บ้าน :
xxxx  
เบอร์มือถือ :
xxxx  
E-mail :
xxxx
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี  
ชื่อสถาบันสูงสุด :
xxxx 
สาขา :
ครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ 
วิชาเอก :
สังคมศึกษา 
เกรดเฉลี่ย :
2.95 
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
มี  
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
มี  
ระดับ ชื่อสถาบัน จังหวัด ประเทศ ปีการศึกษา วุฒิที่ได้รับ
xxx  xxx  xxx  xxx  xxx  xxx 
xxx  xxx  xxx  xxx  xxx  xxx 
xxx  xxx  xxx  xxx  xxx  xxx 
ความสามารถทางด้านภาษา
ภาษา
พูด
เข้าใจ
อ่าน
เขียน
ไทย
ดีมาก 
ดีมาก 
ดีมาก 
ดีมาก  
อังกฤษ
ดี  
ดี  
ดี  
ดี  
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม
ความสามารถ ( ใช้งานได้ )
1. โปรแกรมสำนักงาน
(Word , Excel , Powerpoint , Access)
ดี  
2. โปรแกรม Multimedia
(Cai , Flash , Autoware , etc. )
ดี  
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect
( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. )
ดี  
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์
( photoshop , Illustrator , etc. )
ดี  
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์
( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ )
ดี  
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์
6.1 Window based Application
ดี  
6.2 Web based Application
ดี  
6.3 Mobile Application
ดี  
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ
 
8. Database ที่ชำนาญ
 
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง )
9.1 Window
พอใช้  
9.2 Linux / Unix
พอใช้  
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์
(เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ )
พอใช้  
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี
ความสามารถ ( ใช้งานได้ )
1. เครื่องดนตรีไทย
(ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ )
ดี  
2. เครื่องดนตรีสากล
( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ )
ดี  
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
ความสามารถทางด้าน กีฬาวอลเลย์บอล ผู้เล่น ผู้ฝึกสอน ความสามารถทางด้านการสอนสังคมศึกษา 5 สาระ 1 พระพุทธศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม 2หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม­ 3 เศรษฐศาสตร์ 4 ประวัติศาสตร์5 ภูมิศาสตร์  
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล
จากสถาบัน
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี 
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx  
ระยะเวลาเริ่มทำวันแรก :
16-พฤษภาคม-2559  
-จนถึงวันสุดท้าย :
31-ตุลาคม-2559  
ตำแหน่ง 1 :
 
เงินเดือนสุดท้าย 1 :
N/A  
สาเหตุที่ลาออก 1 :
 
 
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx  
ระยะเวลาเริ่มทำวันแรก :
01-พฤศจิกายน-2559  
-จนถึงวันสุดท้าย :
31-มีนาคม-2560  
ตำแหน่ง 2 :
 
เงินเดือนสุดท้าย 2 :
N/A  
สาเหตุที่ลาออก 2 :
 
 
การฝึกอบรม
หัวข้อ
สถาบัน
ระยะเวลา
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
xxxx 
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ
ชื่อ
นามสกุล
ความสัมพันธ์
สถานที่ติดต่อ
เบอร์โทรศัพท์
1
xxxx  
xxxx  
xxxx  
xxxx  
xxxx  
2
xxxx  
xxxx  
xxxx  
xxxx  
xxxx  
3
xxxx  
xxxx  
xxxx  
xxxx  
xxxx  
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
ปัญหาของคนจำนวนมากเมื่อโตขึ้นคือความชะล่าใจว่าเรารู้ดีแล้ว เข้าใจทุกอย่างดีแล้วจนปิดประตูการเรียนรู้ไปทั้งที่จริงๆ โลกของเรายังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าเช่นเดียวกับสิ่งรอบตัวเราที่รังสรรค์ความรู้ใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ แม้แต่ในสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันมันก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นให้เราสามารถเรียนรู้ได้อยู่เสมอ การไม่เปิดตัวเองให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือการตั้งกำแพงทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วก็เรียกว่าเป็นการตัดโอกาสตัวเองอย่างมาก ยิ่งถ้าใครคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้คนที่มาทีหลังสามารถวิ่งแซงเอาได้ง่ายๆ นอกจากนี้แล้วถ้าใครสามารถเรียนรู้ได้อยู่เรื่อยๆ ก็จะยิ่งทำให้ตัวเองมีมุมมองที่มากขึ้น ต่อยอดความคิดได้มากขึ้น ซึ่งก็จะนำไปสู่การสร้างชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ 
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ปัญหาสังคมมีเยอะครับและแนวทางแก้ไขก็มีเยอะ ผมก็ขอแก้ไขที่ตัวผมเองก่อน สิ่งที่ผมทำได้แล้วคือ ที่ทำงาน 1. จากที่เคยเป็นคนไม่ตรงเวลา ก็เป็นคนตรงต่อเวลามากขึ้น เห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น ตอนอยู่มหาวิทยาลัย อาจารย์ชอบดุว่าผมและนักศึกษาส่วนใหญ่ ไม่ค่อยตรงเวลา และชอบเปรียบเปรยเทียบกับพวกฝรั่ง ผมคิดอยู่ในใจ มันสำคัญอะไรนักหนาเวลาแต่ก็ไม่กล้าถกกับอาจารย์ ถามว่า ทำไมคนไทยไม่ค่อยตรงต่อเวลา ผมวิเคราะห์ได้ดังนี้ ครอบครัวส่วนใหญ่ของคนไทยเป็นเกษตรกร ผมก็คือหนึ่งในนั้น พ่อแม่สอนให้ตรงเวลาขนาดไหน บอกได้เลยว่า การทำงานในไร่ เราไม่มีเวลาที่แน่นอน เสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น จะบอกว่า กินข้าวเช้าเจ็ดโมงทุกวันเป็นไปไม่ได้ บางวัน เจ็ดโมง บางวันแปดโมง บางวัน เก้าโมง การทำงานตามเรือกสวน ไม่มีเวลาที่แน่นอน เราไม่ได้เห็นเวลาสำคัญเท่าใด เราดูแค่ว่าวันนี้งานเราจะเสร็จไหม บางวันเสร็จเร็ว บางวันเสร็จช้า เวลาที่แต่ละครอบครัวกินข้าวในแต่ละวันผมบอกได้เลยว่า ไม่ตรงกัน การปลูกฝังให้ตรงต่อเวลามันจึงไม่สลักสำคัญนักสำหรับครอบครัวที่เป็นเกษตรกร ผมคงเหมารวมไม่ได้แต่สำหรับผมผมไม่เห็นค่ามันมากนัก ซึ่งมันอาจจะต่างจากครอบครัวอื่น ๆ หรือวัฒนธรรมอื่่น แต่ในการทำงานจริง จึงได้รู้ซึ้งถึงบางอ้อ การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพราะถ้าเราไม่รักษาเวลา แผนงานที่วางไว้ ก็เสียหาย หรือไม่ก็พังพินาศหมด 2. รับผิดและรับชอบงานตามหน้าที่อย่างเต็มที่ คำนึงถึงองค์กรและประเทศชาติมากขึ้น ประเทศจะดีเราก็มีส่วนช่วยด้วย ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ตอนเรียน ก็ท่อง ๆ ไปไม่เข้าใจนัก แต่โตขึ้นมีการงานต้องรับผิดชอบ ผมจึงเข้าใจคำว่าหน้าที่คืออะไร คำว่าหน้าที่คืองานที่เราต้องทำ ถ้าไม่ทำก็จะเสียหาย ต่อองค์กร ต่อประเทศ หรือถ้าทำไม่เต็มที่ก็เช่นเดียวกัน ความเสียหายก็ลดหลั่นตามส่วน การทุ่มเททำงานตามหน้าที่ มันไม่ได้ดีเฉพาะกับตัวเรา มันดีกับทุกส่วนถ้าคนรักษาหน้าที่ สังคมก็จะเป็นระเบียบและพัฒนา 3. นำขยะ เช่น ถุงพลาสติก กล่องใส่อาหาร ไปทิ้งลงถัง พฤติกรรมนี้ผมได้มาตั้งแต่ผมเรียนอยู่ระดับประถม ครูจะสอนพวกเราให้นำขยะไปทิ้งลงถัง ทุกครั้ง และทุก ๆ เช้าก็จะช่วยกันเก็บขยะในโรงเรียน จนติดเป็นนิสัย ไม่ว่าจะไปที่ไหน กินเสร็จแล้วก็ต้องนำไปทิ้ง แต่การแยกขยะก่อนทิ้ง มาช่วงหลัง ๆ ซึ่งผมไม่ได้ตระหนักแล้ว มันไม่ติดเป็นนิสัยผมเลย ทุกครั้งที่นึกถึงขยะ พฤติกรรมที่ดี ๆ ที่ผมทำได้คือนำไปทิ้งที่ถังขยะ แต่การคัดแยกขยะ ผมทำไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ถูกฝึกมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แน่ ๆ ผมขอโทษด้วย ที่ทำเป็นนิสัยไม่ได้ ถ้าจะดี ควรจะฝึกผมให้รู้จักการคัดแยกขยะ เช่นเดียวกับฝึกผมให้รุ้จักทิ้งขยะลงถังตั้งแต่สมัยเรียนประถม ใครบอกว่าการศึกษาไม่สำคัญ มันสำคัญก็ตรงนี้ การปลูกฝังนิสัยที่ดีของคนในสังคม มันเริ่มจากบ้านและโรีงเรียน นี่คือตัวอย่างหนึ่ง ที่ผมได้จากโรงเรียนไทย การทิ้งขยะลงถังผมทำได้ แต่การแยกขยะผมยังทำไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ถูกฝึกมาแบบนี้ 4. ปิดไฟ ปิดแอร์ในที่ทำงานตอนเที่ยงวัน ครูในโรงเรียนก็สอนเช่นกัน พ่อแม่ก็บอกผมเช่นกัน ว่า การปิดไฟเมื่อไม่ใช้จะช่วยประหยัดพลังงาน เขาบอกผมว่าไฟฟ้ามาจากเขื่อน เขื่อนต้องทำลายชีวิตทั้งต้นไม้และสัตว์ป่า เพราะฉะนั้นจงประหยัดไฟ เพื่อเป็นกุศลกับสิ่งมีชีวิตที่ตายไปเหล่านั้น ตอนนี้ผมเพิ่งรู้ว่าอาจจะโดนครูหลอก แต่ก็ได้ผล ผมช่วยโลกลดการใช้พลังงาน 5. ยื่นแบบเสียภาษีตามกฏหมาย และไม่ขอคืนภาษี เพราะหวังว่าเงินภาษีจะนำไปใช้จ่ายพัฒนาประเทศ (ต่อไปจะขอคืนบ้างเป็นค่าเลี้ยงดูตัวเอง) ผมเข้าใจเรื่องการเสียภาษีก็ทำงานแล้วหลายปี แต่ไม่ตระหนักว่าการเสียภาษีมันสำคัญอย่างไร ไม่เคยเข้าใจ ประเด็นเหล่านี้ไม่ติดในหัวผมเลย การจ่ายภาษีมันมีผลกับเราอย่างไร ทำไมผมไม่เห็นเข้าใจ ผม ที่สาธารณะ 1. ข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือรอสัญญาณไฟ (แต่ก็ทำไม่ได้ทุกครั้ง) แต่ผมก็มักจะถามตัวเองเสมอว่า 2. รัดเข็มขัดทุกครั้ง 3. ทำตามกฏของแต่ละพื้นที่ เช่น ในสวนบางแห่งห้ามสูบบุหรี่ก็ไม่สูบ ห้ามจอดรถก็ไม่จอด ห้ามให้อาหารนก ก็ไม่ให้ 4. เข้าคิวทุกครั้งในการสั่งอาหาร ซื้อของ จ่ายเงิน ในร้านสะดวกซื้อ หรือห้าง ซึ่งจริง ๆ คนอื่น ๆ ก็ทำกันอยู่แล้ว 5. ยืนชิดด้านใดด้านหนึ่งเวลาอยู่บนบันใดเลื่อน ทำตัวให้ลีบที่สุด เพราะอาจจะมีคนรีบมากกว่าเรา ที่พัก  
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
การคบเพื่อนที่ดี ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน เหมือนเป็นครอบครัวของเรา พินิจพิจารณาเหตุผลปรับปรุงแก้ใข คิดอย่างสมดุลเป็นกระบวนการพิจารณาความสอดคล้องและความสมเหตุสมผลตามความเป็นจริงครับ