ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครู
เงินเดือนที่ต้องการ :
22,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
22-ธันวาคม-2528
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
วิชาเอก :
รัฐประศาสนศาสตร์
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
ผู้ฝึกสอนว่ายน้ำดีเด่น เขต 2 สมุทรปราการ |
สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย |
2557 |
ผู้ตัดสินว่ายน้ำระดับชาติ |
สมาคมว่ายน้ำแห่งปรเทศไทย |
2558 |
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
ผู้จัดการสระว่ายน้ำ
เงินเดือนสุดท้าย 1 :
15000
สาเหตุที่ลาออก 1 :
หมดสัญญาจ้าง
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
เงินเดือนสุดท้าย 2 :
15700
สาเหตุที่ลาออก 2 :
หมดสัญญาจ้าง
3 )
ชื่อสถานประกอบการ 3 :
xxxx
เงินเดือนสุดท้าย 3 :
15700
สาเหตุที่ลาออก 3 :
หมดสัญญาจ้าง
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
ในภาวะปัจจุบัน สังคมประสบปัญหาที่เกิดจากการกระทำวัยรุ่น ซึ่งเป็นบุคคลในวัยเรียน เป็นนักเรียนนักศึกษาที่ยังอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดาและผู้ปกครอง ได้มีพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์ของสังคม อาทิ เช่นการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย การดื่ม และเสพของมึนเมา เสพสิ่งเสพย์ติด การมีพฤติกรรมทางเพศก่อนวัยอันสมควร การมีพฤติกรรมทางเพศที่ฟุ่มเฟือย ไม่เลือกคู่ การขายบริการทางเพศ การก่อ กวนสร้างความเดือดร้อนให้สังคมหลายรูปแบบ บิดามารดาและผู้ปกครอง ปกครองบุตรหลานไม่ได้ดูแลทุกปัญหาที่กล่าวมาล้วนเป็นปัญหาของสังคมอยู่ในระดับที่เรียกว่า วาระแห่งชาติ ซึ่งทุกคนในสังคมต้องร่วมมือกันแก้ไข เพื่อให้ปัญหาลดน้อยลงหรือหมดไป
องค์กรที่สำคัญที่สุดซึ่งใกล้ชิดเยาวชนมากที่สุด ได้แก่ ครอบครัวของเยาวชนและสถานศึกษาที่เยาวชนศึกษาอยู่ ซึ่งมีหน้าที่ให้การศึกษา อบรมบ่มนิสัย ประคับประคอง อุ้มชู ให้ความรัก ความอบอุ่น ตลอดจนความเอื้ออาทร ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกระทำและพฤติกรรมของเยาวชนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบจากประสบการณ์ในการเป็นครูมาหลายปี พบว่านักเรียนมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไม่พึงประสงค์นั้นเกิดจากการเลี้ยงดูเบื้องต้นเกือบทั้งสิ้น เช่น การให้ความรักและให้ทุกอย่าง รวมถึงการตามใจจนไร้ขอบเขต การดุด่าไม่ยอมรับฟังอย่างไรเหตุผล การทอดทิ้งให้อยู่โดยลำพัง
การให้เงินและเครื่องอำนวยความสะดวกมากเกินไป การปกป้องเข้าข้างอย่างผิด ๆ ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง การยอมให้กระทำในสิ่งที่ผิดๆ และการกระทำบางอย่างก่อนวัยอันสมควร การกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมของบิดามารดา และผู้ปกครองให้เยาวชนดู
นอกจากวัฒนธรรมการเลี้ยงดูอย่างผิดๆ จากครอบครัวมีอิทธิพลต่อเยาวชนแล้ว การสอนและการอบรมบ่มนิสัยของครูอาจารย์ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยต่อพฤติกรรมของเยาวชน เช่น
ครู เปลี่ยนจากการเป็นครูเป็นผู้ให้ความรู้
ครู เอาใจใส่นักเรียนซึ่งเป็นศิษย์น้อยเกินไป
ครู ไม่ยอมแก้ไขสิ่งที่นักเรียนกระทำผิด
ครู ไม่กระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์
ครู ปล่อยภาระการแก้ไขพฤติกรรม และปกครองนักเรียนให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองเพียงฝ่ายเดียว
ครู ไม่สามารถลงโทษนักเรียนแบบครู และศิษย์เหมือนในอดีต
ครู ปกครองศิษย์ไม่ได้
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นสาเหตุสำคัญต่อพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนของเยาวชนทั้งสิ้น องค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างบุคลกรที่เข้มแข็งให้บ้านเมืองทุกฝ่าย ซึ่งหมายถึง ครอบครัว สถานศึกษา ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่งเป็นกำหนดนโยบายทั้งในการศึกษาเล่าเรียน และการปกครองนักเรียนหรือเยาวชนต้องหันกลับมาทบทวนการเลี้ยงดู การให้การศึกษาและการอบรมบ่มนิสัย การให้ความรับผิดชอบและการให้รางวัล การลงโทษเยาวชนของไทยใหม่ดีไหมครับ เพื่อสังคมไทยจะได้มีบุคลากรที่มีความเข้มแข็งทั้งด้านระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ความสามารถมาพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติบนเวทีโลกอย่างสง่างามต่อไป...
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
๑. ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางด้านวัตถุ แต่เกิดความเสื่อมทางด้านจิตใจ ค่านิยมและสังคมคนไทยประพฤติปฏิบัติที่แสดงถึงความเสื่อมทางจิตใจอย่างเห็นได้ชัดเจนหลายประการ เช่น นิยมวัตถุ นิยมความหรูหราฟุ่มเฟือย ยกย่องคนรวย โดยไม่คำนึงถึงว่าจะร่ำรวยมาได้โดยวิธีใด เกิดการแข่งขันเอารัดเอาเปรียบ ไม่คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม การเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบนี้นอกจากจะเบียดเบียนกันเองแล้ว ยังเบียดเบียนรุกรานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ที่ดิน ป่าไม้ แม่น้ำ สภาพธรรมชาติ ถูกรุกราน ยึดครอง ถูกทำลาย สภาพน้ำเน่าเสีย สภาพคนจนอยู่ใน สลัมท่ามกลางตึกสูงอันหรูหราใหญ่โต สภาพความยากจนแร้นแค้นของคนในชนบท และสภาพเสื่อมโทรมทางสังคม อันเกิดจากความเสื่อมทางจิตใจมีมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากปัญหายาเสพติด โสเภณี โรคเอดส์และปัญหาอื่น ๆรวมถึงการละเลยด้านศาสนา และประเพณีเป็นต้น
๒. ปัญหาอื่น ๆ ที่สืบเนื่องจากความเสื่อมทางด้านจิตใจและค่านิยม คือ
- ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลงอย่างมากและอย่างรวดเร็ว
-ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนมีมากยิ่งขึ้น คนรวยมีเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติมากมาย ทำให้คนจนส่วนใหญ่ที่จนอยู่แล้วกลับยิ่งยากจนลงไปกว่าเดิมอีก
-ความเจริญกระจุกอยู่แต่ในเมืองไม่ได้กระจายออกไป ทำให้คนชนบทอพยพเข้าสู่เมืองเกิดปัญหาตามมาทั้งในชนบทและในเมือง
-ระบบราชการขาดประสิทธิภาพ เพราะปรับสภาพไม่ทันกับปัญหาสังคมที่ซับซ้อนในเมืองหลวงและในชนบท
-คนไทยส่วนใหญ่พื้นฐานการศึกษายังน้อย ปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาสู่ประเทศไทยโดยเฉพาะเรื่องข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์เป็นต้น
๓.วิกฤตการณ์ทางการเมือง หมายถึง ระบบการเมืองของ ไทยอันเป็นแบบแผน ของสังคมในการปกครองประเทศ และดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ขณะนี้การเมืองไทยมีปัญหาถึง ๘ ประการ คือ
๑. ใช้เงินเป็นใหญ่
๒.มีการผูกขาดการเมืองโดยคนจำนวนน้อย๓ คนดีมีความสามารถเข้าไปสู่การเมืองได้ยาก
๔. การทุจริตประพฤติมิชอบมีอยู่ในทุกระดับ
๕. การเผด็จการโดยระบอบรัฐสภา
๖. การต่อสู้ขัดแย้งเรื้อรังและความไร้เสถียรภาพทางการเมือง
๗. การขาดประสิทธิภาพทางการบริหารและนิติบัญญัติ
๘. การขาดสภาวะผู้นำทางการเมือง
๔. วิกฤตการณ์ในระบบราชการ หมายถึง ระบบราชการอันเป็นเครื่องมือปัญหาสังคมไทยกลับกลายเป็นปัญหาเสียเอง เช่น ปัญหาความเสื่อมศักดิ์ศรีของระบบราชการ ทำให้คนดีคนเก่งหนีระบบราชการ ปัญหาคอรัปชั่นในวงราชการปัญหาคุณธรรม เป็นต้น
๕.วิกฤตการณ์ของการศึกษา หมายถึง การศึกษาของไทยอัน เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของสังคมไทยกลายเป็นตัวปัญหาเสียเอง เช่นการเรียนแบบท่องจำเนื้อหาไม่ทันต่อความรู้ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ปัญหาการแก่งแย่งแข่งขัน ปัญหาระบบการศึกษา การบริหาร การกระจายโอกาสการศึกษา เป็นต้น
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
กัลยาณมิตร คือ เพื่อนที่ดี เป็นหลักธรรมที่ต้องการให้มนุษย์ได้รู้และปฏิบัติในการเป็นเพื่อนที่ดี เป็นคุณสมบัติของมิตรแท้ (มีไมตรีต่อกัน) เมื่อได้คบกันหรือเข้าหากันแล้วจะก่อให้เกิดความดีงาม และความเจริญ กัลยาณมิตรเป็นฐานที่ทำให้มิตรได้รู้ความจริง (truth) หลักการ กฎเกณฑ์ ทฤษฎี หรือข้อตกลงอื่น ๆ ที่สังคมกำหนด หรือสังคมยอมรับ ซึ่งเป็นฐานในการโยงความสัมพันธ์ของเงื่อนไขจำเป็น (เหตุ) กับสิ่งที่เกิดตามมา (ผล) เนื่องจากการพิสูจน์ คือ การนำหรืออ้างหลักฐานประจักษ์มายืนยันหรือปฏิเสธ การพิสูจน์จึงต้องดูที่เงื่อนไขจำเป็นของสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น โยนิโสมนสิการ เป็นกระบวนการพิจารณาความสอดคล้องและความสมเหตุสมผลตามความเป็นจริง