ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนคณิตศาสตร์
เงินเดือนที่ต้องการ :
12,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
04-สิงหาคม-2538
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
สำหรับทัศนคติต่อการศึกษาไทย ในระดับประถม มัธยม สิ่งหนึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า นักเรียนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ครูคือเข็มทิศที่ชี้นำเด็ก ให้เค้าค้นพบตนเองว่าชอบหรือมีทักษะ หรือพัฒนาการไปในทางด้านใด ไม่ใช่ว่าการศึกษาไทยไม่ดี มันดีในรูปแบบของครูเปรียบเสมือนพ่อแม่ แต่นักเรียนในวัยมัธยมเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นจึงมีบ้างที่จะไม่เชื่อฟังครู นี่คือข้อแรกที่ครูต้องทำตัวเองให้เปรียบเสมือนเป็นเข็มทิศและเป็นพ่อแม่ เด็กควรเขื่อฟังครูเพราะถ้าว่าในวุฒิภาวะหรือทางกฎหมาย เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะยังไม่มีความรับผิดชอบพอ ส่วนในระดับอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัย คือนิสิตโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้ อาจารย์จึงเปรียบเหมือนผู้ให้ความรู้และผู้ให้คำแนะนำ แล้วนิสิตจะตัดสินใจเอง ส่วนเรื่องระบบการศึกษาไทยมันมีอะไรนอกจากการสอน เพราะต้องมีตัววัดผล ครูจึงจำเป็นต้องเก็บสถิติ ประเมินว่าเวิร์คจริงไหมกับการสอนแบบนี้ คนที่มาพูดว่า ครูได้แค่สอน ทำไมไม่ให้แค่สอนๆจบๆ มันดูไม่พัฒนา ถ้าครูแค่สอนๆไม่มีการประเมินตนเองดู ก็เหมือนคนไม่พัฒนาอะไรเลย ดังนั้นถ้าจะพัฒนาให้การศึกษาไทยดีขึ้น ก็จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาแม่พิมพ์ให้ดีเสียก่อน
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
สังคมไทยปัจจุบัน เป็นสังคมที่เห็นคุณค่าทางวัตถุมากกว่าคุณค่าทางจิตใจ ยิ่งมีวัตถุสนองความต้องการมากเท่าไรยิ่งไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ คนในยุคนี้จึงมีปัญหาทางจิตเกิดขึ้นมากมาย เช่น มีพฤติกรรมการแสดงออกที่รุนแรง ขาดเมตตา ทั้งๆที่พระพุทธศาสนาสอนว่า เมตตาธรรมเป็นเครื่องค้ำจุนโลก ทำให้คนไทยยุคใหม่ตกเป็นทาสของประเทศทุนนิยมที่ผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคมาเป็นเหยื่อล่อ ทำให้มนุษย์เกิดกิเลสอยากมีอยากได้ สนับสนุนให้เกิดค่านิยมบริโภคผ่านสื่อต่างๆโดยปราศจากการควบคุม เมื่อเกิดความอยากมี อยากได้ แต่ไม่มีเงินซื้อจะกระทำทุจริต ลักเล็กขโมยน้อย ฉกชิงวิ่งราว ดังที่เป็นข่าวอยู่เสมอ สังคมปัจจุบันจึงไร้ความมีน้ำใจ มนุษย์ชอบหมกมุ่นในกามคุณ เป็นที่รวมสิ่งยั่วยุทางเพศ สื่อลามกต่าง ๆ มากมาย มีสิ่งมอมเมาในรูปแบบการพนันต่าง ๆ อีกมาก เสพสิ่งเสพติด เช่น บุหรี่ ยาบ้า ยาไอซ์ เมื่อสังคมไทยตกอยู่ในสภาพแวดล้อมทางสังคมเช่นนี้ จึงหมกมุ่นจนถอนตัวไม่ขึ้น อีกทั้งคนส่วนใหญ่คิดว่า การมีความพร้อมทางวัตถุจะทำให้ชีวิตมีความสงบสุข จึงชอบวิ่งตามวัตถุ ไขว่คว้าหามาบำรุงชีวิต สิ่งใดที่ยังไม่มีเหมือนคนทั่วไปจะพยายามดิ้นรนหามา สิ่งที่มีอยู่แล้วก็ให้มีมากกว่าเดิม ถึงกับกู้หนี้ยืมสินมาซื้อหา ที่ถลำลึกอาจถึงขั้นทุจริตคิดมิชอบต่อหน้าที่การงาน คนประเภทนี้จะหาความสงบสุขทางใจไม่ได้จนตลอดชีวิต สมัยนี้มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านสภาพแวดล้อมหรือปัญหาทางสังคมจึงทำให้การแข่งขันกันเองเกิดขึ้นกับสังคมไทยในปัจจุบัน ทำให้คนไทยมีความเครียดมากขึ้นและทำให้คนไทยมีความคิดที่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อน เกิดการแข่งขันแย่งชิงกันในสังคมปัจจุบัน จึงทำให้คนมีแรงกดดันทำให้คนไทยเกิดเป็นปัญหาขัดแย้งต่อกันความเห็นแก่ตัวของคนที่เกิดขึ้นกับหลายๆ สังคม ซึ่งคนไทยลืมเรื่องของความมีน้ำใจและความให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยากให้คนในสังคมนั้นมีน้ำใจรู้จักการให้อภัย รู้จักการแบ่งปันเพราะถ้าคนปัจจุบันเรามัวแต่ให้ความสนใจแต่วัตถุนิยมสังคมก็จะเสื่อมลงเรื่อยๆซึ่งสังคมไทยนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
กัลยาณมิตรเป็นปัจจัยสำคัญในการก่อให้ผู้เรียนมีความรู้ วิธีคิด และการปฏิบัติที่ถูก ซึ่งเป็นผู้ชี้แนะในหลักการ และความรู้ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในวัยเริ่มเรียนรู้ พ่อแม่โดยปกติเป็นกัลยาณมิตรที่ทุ่มเททั้งกายและจิตเพื่อให้ลูกเป็นคนดี มีความรู้ ลำดับต่อมา คือ ครู อาจารย์ (ที่มีคุณลักษณะ และคุณสมบัติเป็นครู ตามหลักกัลยาณมิตรธรรม ๗ ดังได้กล่าวแล้ว) สิ่งที่ได้จากกัลยาณมิตร เริ่มต้นจากประสบการณ์จากการสัมผัสด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย และเลือกรู้ จำ ปฏิบัติในสิ่งที่สอดคล้องกับสิ่งที่ตนต้องการ ได้รู้หลักการต่างและความคิดรวบยอดของสิ่งต่าง ๆ เก็บใส่ในสมองเป็นพื้นฐานในการคิดในการพิจารณาตัดสินใจในการหาเหตุที่มา คือ โยนิโสมนสิการต่อไป
ชีวิตในโรงเรียน ในชั้นเรียนของเด็กเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หากการเรียนรู้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นกัลยาณมิตร การเรียนมีลักษณะช่วยเหลือพึ่งพา มากกว่าการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น มีครู มีเพื่อนที่เข้าใจ รู้ใจ ไว้วางใจ ใกล้ชิด สนิทสนม คุ้นเคย ย่อมรับรู้ถึงความอบอุ่น ปลอดภัย จิตใจเบิกบาน เรียนรู้ที่มีความสุข