ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนวิชาภาษาไทย
เงินเดือนที่ต้องการ :
N/A
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
13-มิถุนายน-2537
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
สาขา :
ครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
| ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
| xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
| xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
| xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน
(Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia
(Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect
( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์
( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์
( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์
(เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย
(ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล
( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
ทำสื่อการสอน CAI จาก Adobe captivate 8 เขียนเรื่องสั้น นวนิยาย บทความ เล่นกีฬา เปตอง แบตมินตัน
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
วิทยากรค่ายพัฒนาการอ่านเขียนภาษาไทย |
โรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม |
2560 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
ครูพระสอนศีลธรรม
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
ตำแหน่ง 2 :
ฝึกปฏิบัติการสอน
3 )
ชื่อสถานประกอบการ 3 :
xxxx
ตำแหน่ง 3 :
ฝึกปฏิบัติการสอน
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
การศึกษาไทยในปัจจุบันยังคงมีความเหลื่อมล้ำในเรื่องของโอกาสและการเข้าถึงในแต่ละพื้นที่ ที่มักไปกระจุกอยู่ในเมื่องใหญ่ ทำให้เด็กบางส่วนต้องเสียโอกาสไป เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะเห็นสังคมที่ผู้ปกครองต้องดิ้นรนนำบุตรหลานสอบเข้าโรงเรียนใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียง ตามกระแสและค่านิยม ทั้งๆที่ประเทศไทยทุกวันนี้ผู้ศึกษาสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้ง่ายขึ้น จากเทคโนโลยีที่เข้ามาและอีกหลายวิธีที่จะเข้าถึงระบบการศึกษา นอกจากนี้การศึกษาไทยจะมุ่งเน้นไปในเรื่องของตัวเลขที่มาจากการประเมินจากการสอบ ซึ่งมีให้สอบแทบจะทุกเดือน การสอบระดับชาติ ที่หลายๆโรงเรียนมักจะหยุดการเรียนการสอนเพื่อติวเนื้อหาเพื่อที่เด็กจะได้นำไปสอบและได้ผลคะแนนที่บ่งบอกว่าโรงเรียนนี้ดี การเน้นวิชาการ ใส่ความรู้ให้เด็กจนลืมนึกไปว่าบนโลกนี้ความรู้ไม่ได้มีแค่ในตำรา ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่สามารถทำให้เด็กทุกคนเรียนเก่งเหมือนกันทั้งหมด เพราะเราวัดความสามารถเด็กจากเกรดที่เค้าได้รับ จนลืมนึกถึงความสามารถในด้านอื่นๆของเด็กที่เค้ามีความสามารถและขาดการส่งเสริมและพัฒนา อย่างที่เคยได้ยินมาว่า มนุษย์เราโดดเด่นที่ความแตกต่าง เมื่อเรานำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาคิดว่าการศึกษาไทยจะพัฒนาต่อไปในทิศทางที่ดี
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
สังคมไทยกำลังถูกสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยี ความก้าวหน้า และความเจริญ ทำลายศีลธรรมและความคิด สังคมบิดเบี้ยวไปเสียมากจากความเห็นแก่ตัวของคนบางกลุ่มที่ส่งผลต่อคนส่วนใหญ่ ผู้มีอำนาจและค่าเงินตราจะอยู่ในที่สว่างและข่มผู้ที่อำนาจด้อยกว่า ความอยุติธรรมจึงมักเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สังคมไทยในสมัยก่อนเราจะเห็นความเอื้อเฟื้อ ความสุขและรอยยิ้มได้อย่างชัดเจน ใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ไม่แสวงหาความเจริญ มีน้อยใช้น้อย มีมากก็เก็บออม ทุกคนคือเพื่อนบ้านพี่น้องที่สามารถแบ่งปันสิ่งเล็กๆน้อยๆต่อกันได้ แต่สังคมปัจจุบันอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าความเจริญมันบีบรัดให้เราเห็นแก่ตัว ทั้งชีวิตเราดิ้นร้นไปตามเศรษฐกิจ เงินและวัตถุคือปัจจัยสำคัญในชีวิตมากกว่าคุณค่าทางจิตใจ สังคมเราก็มีทั้งดีและแย่ปะปนกันไป ไม่ดีและไม่เลว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้น
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
จากการเรียนมหาวิทยาลัยสงฆ์ให้อะไรแก่เรามากมาย รวมไปถึงหลักกัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการ ซึ่งถูกสอนมาเสมอว่าเป็นพื้นฐานการคิด พิจารณา อย่างมีวิจารณญาณของพระพุทธศาสนา ซึ่งคิดว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับการศึกษาโดยตรง เพราะ กัลยาณมิตรนั้นคือเพื่อนที่ดี เป็นหลักธรรมที่จะสอนเราในเรื่องของการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งความเป็นกัลยาณมิตรของครู จะสามารถสร้างสรรค์บรรยากาศของการเรียนรู้ในชั้นเรียน ทำให้ผู้เรียนรู้สึกผ่อนคลาย ถือเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ ตามความต้องการของเด็กได้ นอกจากในชั้นเรียนแล้ว การอยู่ร่วมกันกับบุคลากรท่านอื่นๆในโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน ควบคู่ไปกับการมีโยนิโสมนสิการมีโยนิโสมนสิการ คือความใส่ใจ กล่าวคือสิ่งใดที่ไม่ควรก็อย่าทำ สิ่งใดที่ควรทำก็จงทำ สิ่งใดควรทำก่อน สิ่งใดไม่ควรทำก่อน ก็พิจารณาด้วยสติ ไตร่ตรองให้ดี แล้วเราจะอยู่อย่างมีความสุข
