ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนศิลปะ
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
11-ธันวาคม-2536
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
สาขา :
ครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
สามารถ วาดรูป , งานประติมากรรม, งานภาพพิมพ์ ,งานออกแบบต่างๆได้
สามารถทำงานออกแบบกราฟิกได้
สามารถทำงานฝีมือ-งานประดิษฐ์ได้
สามารถเขียนป้ายและเขียนภาพบนผนังได้
สามารถสอนนาฏศิลป์ได้ เคยสอนนาฏศิลป์ ป.1 และเคยฝึกซ้อมรำถวายพระพรในระดับอนุบาล
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
รางวัล ชนะเลิศ การแสดงละครพื้นบ้าน |
โรงเรียนหนองบัวระเหววิทยาคาร |
2552 |
รางวัล รองชนะเลิศ การประกวดจัดทำหนังสือเล่มเล็ก |
โรงเรียนหนองบัวระเหววิทยาคาร |
2554 |
รางวัล เหรียญทอง แข่งขันร้อยมาลัยดอกไม้สด |
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชัยภูมิเขต 3 |
2551 |
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
สาเหตุที่ลาออก 1 :
สิ้นสุดระยะเวลาฝึกสอนภาคเรียนที่ 1
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
ตำแหน่ง 2 :
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
สาเหตุที่ลาออก 2 :
สิ้นสุดระยะเวลาฝึกสอนภาคเรียนที่ 2
3 )
ชื่อสถานประกอบการ 3 :
xxxx
เงินเดือนสุดท้าย 3 :
10000
สาเหตุที่ลาออก 3 :
ค่าครองชีพสูง เงินเดือนน้อยไม่พอกับค่าใช้จ่ายรายเดือน
4 )
ชื่อสถานประกอบการ 4 :
xxxx
เงินเดือนสุดท้าย 4 :
15800
สาเหตุที่ลาออก 4 :
เลิกงานดึก ไม่สะดวกกับการเดินทางกลับที่พัก วันหยุดไม่ค่อยมีทำให้ไม่มีเวลาทำธุระส่วนตัวในแต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่ใช้จ่ายประจำเยอะ
5 )
ชื่อสถานประกอบการ 5 :
xxxx
เงินเดือนสุดท้าย 5 :
15800
สาเหตุที่ลาออก 5 :
กลับมาช่วยดูแลคุณย่าและช่วยงานที่บ้านชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เนื่องจากคุณย่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงและอัลไซเมอร์ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
การศึกษาไทยในปัจจุบันมีการแข่งขันมากขึ้นแต่ความพร้อมด้านความรู้ ความสามารถของผู้เรียนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างปานกลาง ในด้านการเรียน ผู้เรียนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญในการเรียนอย่างไรจะได้เกรดเฉลี่ยและคะแนนที่จะต้องนำไปใช้ในการศึกษาต่อ และการเรียนในปัจจุบันได้นำสื่อและนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้ในการสอน สื่อเทคโนโลยีต่างๆในปัจจุบันเข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอนมากขึ้น ในการสอนจำเป็นต้องมีกระบวนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนจำเป็นต้องได้รับความรู้ เกิดการคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะและกระบวนการ เทคนิควิธีการ การฝึกปฏิบัติจริง และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
สภาพสังคมไทยในปัจจุบัน วัยที่ถือว่าอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ วัยรุ่น ในปัจจุบันเกิดปัญหามากมาย และเกิดจากการกระทำของบุคลในวัยเรียนทั้งนักเรียนและนักศึกษา อีกทั้งยังอยู่ในการควบคุมการดูแลของครอบครัวและปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการที่ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ อีกทั้งยังเข้าใจว่าบุตรหลานของตนนั้นถูกเสมอ สืบเนื่องมาจากการที่ไม่มีเวลาให้ขาดการพูดคุย อบรม ภายในครอบครัวจึงขาดการสังเกตพฤติกรรม ซึ่งในปัจจุบันสังเกตเห็นได้ชัดว่าบุคคลในวัยเรียนเหล่านี้มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย การดื่มของมึนเมาและสิ่งเสพย์ติด การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ในวัยเรียนค่อยข้างเยอะ การสร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการขาดการเข้าหา พูดคุยกันภายในครอบครัวตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อเด็กในวัยเรียนขาดที่พึ่งในครอบครัว สิ่งที่บุคคลเหล่านี้จะพึ่งคือสังคมเพื่อน และการระบายอารมณ์ออกมาในด้านการใช้ความรุนแรง เมื่อสถาบันครอบครัวขาดการดูแลเอาใจใส่ มาตั้งแต่แรก เเล้วมาดูแลในช่วงที่บุคคลเหล่านี้อยู่ในช่วงที่รุนแรง ผลที่ตามมาคือ ครอบครัวไม่สามารถพูดคุย อบรมได้ และเกิดความรุนแรงในครอบครัวตามมา และนอกเหนือจากการขาดการอบรมภายในครอบครัว ด้านการอบรมให้ความรู้จากครูในปัจจุบัน พบว่าครูในปัจจุบันให้ความสนใจแก่นักเรียนน้อยลง ใส่ใจนักเรียนที่ดีและปล่อยปะละเลยนักเรียนที่อยู่ใน วิกฤติ และผลักภาระให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองและฝ่ายแนะแนวอย่างเดียว การดูแลให้ความสนใจในชั้นเรียนไม่ค่อยเท่ากัน มักจะให้ความสำคัญชื่นชมนักเรียนที่ดี และให้ความเมินเฉยและรวมถึงการใช้คำพูดที่รุนแรง วิภาควิจารณ์สิ่งที่ไม่ดีของผู้เรียนออกมาประจาร ส่งผลให้ในตัวของนักเรียนที่จัดอยู่ในกลุ่มวิกฤตต้องได้รับการดูแลและแก้ไขนั้น เกิดความรู้สึก กดดัน ไม่ชอบ และเกิดการใช้ความรุนแรงระหว่างครูและนักเรียน และทำให้นักเรียนเหล่านั้นเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อครู และทำให้ไม่อยากเข้าเรียนอีกด้วย
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
ในด้านการศึกษา ควรจัดให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติทั้งแบบเป็นกลุ่มและเเบบรายบุคคล การที่ผู้เรียนจะเรียนได้อย่างไม่กดดันมากที่สุดคือการจัดโต๊ะเรียนในลักษณะเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มเพื่อที่เวลาเรียนจะได้สามารถปรึกษาและช่วยเหลือกันภายในกลุ่มผู้เรียน และในการสอน ครูผู้สอนควรกระจายความรู้ให้ทั่วถึง ให้คำแนะนำ คำปรึกษา มีความเป็นกันเองแก่ผู้เรียน ในระหว่างเรียนอาจมีการตั้งคำถามที่ให้ผู้เรียนได้ช่วยกันตอบ และตอบเป็นรายบุคคล โดยในการตั้งคำถามเพื่อให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และกล้าแสดงออก ครูอาจใช้วิธีการเสริมแรงเพื่อกระตุ้นผู้เรียนมากขึ้น และหาสื่อเพื่อดึงดูดผู้เรียนมากขึ้น ใส่ใจผู้เรียนที่อ่อนเพื่อให้ผู้เรียนที่เรียนอ่อนได้เข้าใจและสามารถเรียนทัน ผู้เรียนคนอื่นๆ ฝึกและหมุนเวียนให้ผู้เรียนได้มีทักษะการเป็นผู้นำและผู้ตาม มีการอธิบาย พูดคุยกันในกลุ่มและช้วยเหลือกันและกัน