ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูภาษาจีน
เงินเดือนที่ต้องการ :
17,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
31-ตุลาคม-2539
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
ผ่านการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนระดับ4 (HSK4) |
สถาบันขงจื๊อ |
2562 |
ค่ายสอนภาษาจีนแก่น้องๆโรงเรียนวัดหนองคัน(ไจพิทยาคาร) |
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี |
2559 |
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
ครูสอนภาษาจีน
เงินเดือนสุดท้าย 1 :
12,000
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
ตำแหน่ง 2 :
นักศึกษาฝึกงาน (ล่ามภาษาจีน)
เงินเดือนสุดท้าย 2 :
10,000
สาเหตุที่ลาออก 2 :
สิ้นสุดการฝึกงาน
3 )
ชื่อสถานประกอบการ 3 :
xxxx
ตำแหน่ง 3 :
นักศึกษาช่วยปฏิบัติงาน ล่าม การซื้อขายประมูลกลุ่มรังนกนางแอ่นตะวันออก (Part Time)
สาเหตุที่ลาออก 3 :
เริ่มต้นการฝึกงาน
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
ความสำคัญของการศึกษาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการประกอบอาชีพ จะเห็นว่าการศึกษามีความหมาย คือเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ในเรื่องต่างๆ และเป็นการพัฒนาบุคคลผู้ศึกษาเองให้มีความคิด ความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยม และคุณธรรม ซึ่งทั้งสองมิติแห่งความหมายนี้แยกกันไม่ได้ ตรงกันข้ามจะต้องควบคู่กันไปเพราะเมื่อบุคคลหนึ่งมีความรู้ แต่มีความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยมและคุณธรรม ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ที่จะนำไปสู่การใช้ความรู้ในทางที่ไม่ทำประโยชน์ต่อทั้งตนเองและส่วนรวมได้ การศึกษานั้นเป็นเรื่องของทุกคน และไม่ใช้ในเวลาใดเวลาหนึ่ง เเต่เป็นหน้าที่ของทุกคน การศึกษานับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การศึกษานับว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำเนินชีวิตของคนทุกคนการศึกษา คือการสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นมีลักษณะนิสัยจิตใจที่ดีงาม มีความพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อตนเองและสังคม จะเห็นได้ว่าการศึกษาปัจจัยที่จะช่วยแก้ปัญหาทุก ๆ ด้านของชีวิตและเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของชีวิตในโลกที่มีกระแสความเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่าง รวดเร็ว และส่งผลกระทบให้วิถีดำรงชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันการศึกษายิ่งมีบทบาทและความจำเป็นมากขึ้นด้วย การศึกษาที่จะช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี มีความสุข การศึกษาขั้นพื้นฐานของสังคมสมัยนี้ต้องเรียนกันอย่าน้อย 12 ปี จึงจะเพียงพอกับความต้องการและความจำเป็นที่จะยกระดับ คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ในภาวะปัจจุบัน สังคมประสบปัญหาที่เกิดจากการกระทำวัยรุ่น ซึ่งเป็นบุคคลในวัยเรียน เป็นนักเรียนนักศึกษาที่ยังอยู่ในการอุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดาและผู้ปกครอง ได้มีพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์ของสังคม อาทิ เช่น
- การทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย
- การดื่ม และเสพของมึนเมา เสพสิ่งเสพย์ติด
- การมีพฤติกรรมทางเพศก่อนวัยอันสมควร
- การมีพฤติกรรมทางเพศที่ฟุ่มเฟือย ไม่เลือกคู่
- การขายบริการทางเพศ
- การก่อกวนสร้างความเดือดร้อนให้สังคมหลายรูปแบบ
- บิดามารดาและผู้ปกครอง ปกครองบุตรหลานไม่ได้
ทุกปัญหาที่กล่าวมาล้วนเป็นปัญหาของสังคมอยู่ในระดับที่เรียกว่า วาระแห่งชาติ ซึ่งทุกคนในสังคมต้องร่วมมือกันแก้ไข เพื่อให้ปัญหาลดน้อยลงหรือหมดไป
องค์กรที่สำคัญที่สุดซึ่งใกล้ชิดเยาวชนมากที่สุด ได้แก่ ครอบครัวของเยาวชนและสถานศึกษาที่เยาวชนศึกษาอยู่ ซึ่งมีหน้าที่ให้การศึกษา อบรมบ่มนิสัย ประคับประคอง อุ้มชู ให้ความรัก ความอบอุ่น ตลอดจนความเอื้ออาทร ซึ่งมีอิทธิพลต่อการกระทำและพฤติกรรมของเยาวชนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
กัลยาณมิตร คือ เพื่อนที่ดี เป็นหลักธรรมที่ต้องการให้มนุษย์ได้รู้และปฏิบัติในการเป็นเพื่อนที่ดี เป็นคุณสมบัติของมิตรแท้ (มีไมตรีต่อกัน) เมื่อได้คบกันหรือเข้าหากันแล้วจะก่อให้เกิดความดีงาม และความเจริญ กัลยาณมิตรเป็นฐานที่ทำให้มิตรได้รู้ความจริง (truth) หลักการ กฎเกณฑ์ ทฤษฎี หรือข้อตกลงอื่น ๆ ที่สังคมกำหนด หรือสังคมยอมรับ ซึ่งเป็นฐานในการโยงความสัมพันธ์ของเงื่อนไขจำเป็น (เหตุ) กับสิ่งที่เกิดตามมา (ผล) เนื่องจากการพิสูจน์ คือ การนำหรืออ้างหลักฐานประจักษ์มายืนยันหรือปฏิเสธ การพิสูจน์จึงต้องดูที่เงื่อนไขจำเป็นของสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
โยนิโสมนสิการ เป็นกระบวนการพิจารณาความสอดคล้องและความสมเหตุสมผลตามความเป็นจริง ตามที่มาศัพท์หรือศัพทมูล โยนิโสมนสิการ นั้นประกอบด้วยคำสองคำ คือ
โยนิโส มาจาก โยนิ แปลว่า เหตุ ต้นเค้า แหล่งเกิด ปัญญา อุบาย วิธี ทาง
มนสิการ หมายถึง การทำในใจ การคิด คำนึง นึกถึง ใส่ใจ พิจารณา
ดังนั้น โยนิโสมนสิการ จึงหมายถึง การทำในใจให้แยบคาย หรือ การพิจารณาโดยแยบคาย กล่าวคือ ความเป็นผู้ฉลาดในการคิด คิดอย่างถูกวิธีถูกระบบ พิจารณา ไตร่ตรองสาวไปจนถึงสาเหตุหรือต้นตอของเรื่องที่กำลังคิด คือคิดถึงรากถึงโคนนั่นเอง แล้วประมวลความคิดรอบด้านจนกระทั่งสรุปออกมาได้ว่าสิ่งนั้นควรหรือไม่ควร ดีหรือไม่ดี เป็นวิถีทางแห่งปัญญา เป็นธรรมสำหรับกลั่นกรองแยกแยะข้อมูลหรือแหล่งข่าวหรือที่เรียก ปรโตโฆสะ อีกชั้นหนึ่ง กับทั้งเป็นบ่อเกิดแห่งความคิดชอบหรือ สัมมาทิฐิ ทำให้มีเหตุผล และไม่งมงาย
ในฐานะที่เป็นกระบวนการสอน โยนิโสมนสิการเป็นกระบวนการคิด เป็นวิธีการที่ให้บุคคลมีหลักการและวิธีการคิดที่ก่อให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้ในกระบวนการสอน ขอใช้ในความหมายง่าย ๆ ว่า โยนิโสมนสิการ คือ กระบวนการคิดหาเหตุ หรือกระบวนการพิจารณาหาเหตุ
เหตุ คือ อะไร เหตุ คือ เงื่อนไขจำเป็นที่ทำให้เกิดสิ่งหนึ่งตามมา สิ่งที่ตามมาเรียกว่า ผล เหตุและผลมีความสัมพันธ์โยงถึงกัน ดังนั้น ถ้ารู้เหตุ ก็สามารถรู้ผลได้ หรือรู้ผลก็โยงไปหาเหตุได้ แต่ในการค้นหาเหตุได้ ต้องมีพื้นฐานความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ถ้ามีความรู้มาก ก็มีโอกาสตรึกตรองถึงความสัมพันธ์ของเหตุและผลได้ลึกและละเอียดมากตามไปด้วย ดังนั้น ก่อนการพิจารณาเหตุและผล จึงต้องมีความรู้ หลักการ กฎเกณฑ์ ที่ตรงกับความเป็นจริงเป็นเบื้องแรก
ความรู้ที่เป็นพื้นฐานความรู้นั้นมาจากไหน คำตอบ คือ ความรู้เหล่านั้นมาจากการรับรู้จากภายนอก หรือ ปรโตโฆษะ หรือ สิ่งเร้า หรือ ประสบการณ์ หรือ จากการเรียนรู้ ซึ่งเริ่มต้นจากมีผู้แนะนำ ชี้ทาง ในสิ่งที่ถูก หรือ กัลยาณมิตร เป็นผู้ที่หวังดีที่จะให้เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี ด้วยเหตุที่คุณลักษณะของกัลยาณมิตรประกอบด้วย
ปิโย มีความน่ารัก ความน่ารักเป็นฐานที่ทำให้เกิดความสบายใจและสร้างความสนิทใจ ชวนให้อยากเข้าไปใกล้ชิด การทำตนให้เป็นที่น่ารักนั้นมีหลักธรรมอื่นมาเสริมอีกหลายข้อ เช่น สังคหวัตถุ ธรรมทำให้งาม พรหมวิหาร
ครุ มีความน่าเคารพ มีความไว้วางใจ จากฐานความประพฤติที่สมควรตามสถานภาพ เป็นเหตุก่อให้เกิดความไว้วางใจ เป็นที่พึ่งได้และมีความปลอดภัย
ภาวนีโย เป็นผู้ปฏิบัติได้จริง ทั้งในด้านความคิด ความรู้และการปฏิบัติ พัฒนาและปรับปรุงตนอย่างสม่ำเสมอ เมื่อผู้ใดได้อยู่ใกล้ชิดก็ได้ประโยชน์ ระลึกถึงด้วยความซาบซึ้งและภูมิใจ
วัตตา จ รู้จักพูดให้เกิดประโยชน์นำไปสู่ผลที่ต้องการ ให้คำปรึกษาที่ดี แนะนำ ตักเตือน ชี้แจง ชี้ประเด็นให้เกิดความรู้ ความเข้าใจได้ง่าย
วจนกฺขโม อดทนต่อถ้อยคำ หรือพร้อมรับฟังถ้อยคำด้วยความอดทน ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียว ฟังได้ไม่เบื่อ ทั้งในข้อปรึกษา วิพากษ์ วิจารณ์ ข้อเสนอ หรืออื่น ๆ
คัมภีรญฺจ กถํ กตฺตา รู้จริง แถลงเรื่องลึกล้ำได้ ถ่ายทอดเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่าย และเรียนรู้เรื่องที่ลึกซึ้งได้
โน จฏฺฐาเน นิโยชเย ไม่แนะนำชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสีย แนะนำแต่ทางที่ดีมีประโยชน์