ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนวิชาดนตรี
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
05-ธันวาคม-2532
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
วิชาเอก :
ศิลปกรรมศาสตร เอกดนตรี
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
Microsoft Office,Word,Power Point,Excel,Photoshop
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
เล่นกีฬา เช่น ฟุตบอล ว่ายน้ำ วิ่ง เปตอง ปิงปอง ตะกร้อ บาสเกตบอล โบว์ลิ่ง เข้าใจระบบบัญชี
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
ประกวดวงดนตรีชนะเลิศ |
Superstar college of arts |
พ.ศ.2558-2559 |
ศิลปิน |
Werkgang ในเครือแกรมมี่ |
|
คุณครูดีเด่น |
วิทยาลัยการจัดการนวัตกรรม |
พ.ศ.2562-2563 |
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
ศิลปิน,นักแต่งเพลง
เงินเดือนสุดท้าย 1 :
18,000
สาเหตุที่ลาออก 1 :
ย้ายบริษัทค่ายเพลง
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
ตำแหน่ง 2 :
ศิลปิน,นักแต่งเพลง
เงินเดือนสุดท้าย 2 :
18,000
สาเหตุที่ลาออก 2 :
มาเป็นครูสอนพิเศษตามโรงเรียน
3 )
ชื่อสถานประกอบการ 3 :
xxxx
ตำแหน่ง 3 :
ครูสอนพิเศษดนตรี
เงินเดือนสุดท้าย 3 :
17,000
สาเหตุที่ลาออก 3 :
ต้องการเป็นครูประจำที่โรงเรียน
4 )
ชื่อสถานประกอบการ 4 :
xxxx
ตำแหน่ง 4 :
ครูสอนดนตรีระดับชั้นปฐมวัย
เงินเดือนสุดท้าย 4 :
15,000
สาเหตุที่ลาออก 4 :
ไกลจากที่พักอาศัย
5 )
ชื่อสถานประกอบการ 5 :
xxxx
ตำแหน่ง 5 :
ครูประจำวิชาดนตรีสากล
เงินเดือนสุดท้าย 5 :
15,000
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
การสอนสมัยนี้ เน้นเพียงให้ผู้ศึกษาสามารถทำตามที่สอนได้เท่านั้น
แต่ไม่เน้นในการให้ผู้ศึกษาค้นพบวิธีของตนเอง คนที่เรียนดี จะเรียนดีเพราะคิดเหมือนได้เท่านั้น ไม่ใช่คิดต่าง
จึงเกิดการคัดลอกกันเอง ทำให้ไม่มีอะไรใหม่ๆเพิ่มเติม นอกจากที่เรียนมา
นอกจากนั้น การเรียนสมัยนี้ เป็นการเรียนแบบ มัดซุงวิชาเรียน คือการให้ผู้เรียน ศึกษากับวิชาหลายๆวิชาในวันเดียวกัน
โดยไม่สนใจเรื่องตัวผู้เรียน แต่สนใจเรื่องผลลัพธ์การเรียน โดยเมื่อผลลัพธ์วิชาใดๆได้ผลต่ำกว่าเกณฑ์ที่สมมุติขึ้น
วิชาอื่นๆจะถูกเหมารวมไปด้วย การเรียนแบบ มัดซุงวิชาเรียน จึงเป็นการเรียนที่ทำให้ ความถนัด และ ความสามารถเฉพาะ ของผู้เรียนถดถอยลงอย่างน่าเสียดาย ทั้งด้านความสามารถ และสุขภาพจิต ด้วยเหตุผลที่ว่า คนส่วนใหญ่มองเรื่องคะแนนเป็นหลัก เมื่อได้คะแนนที่น้อย จะทำให้ถูกคนส่วนใหญ่ตำหนิ โดยเฉพาะพ่อแม่และครูอาจารย์ ดังนั้นผู้เรียนจะเริ่มพยายามสละการเรียนแบบที่ตนชอบและถนัด มาเรียนแบบ มัดซุงวิชาเรียน หรือสรุปง่ายๆที่สุดคือ การเรียนสมัยนี้ เป็นการเรียนที่ไม่ตรงเป้าหมายผู้เรียน และพยายามให้ผู้เรียน ทำตามเป้าหมายที่สมมุติขึ้นมาเอง
และอย่างที่สามคือการเรียนที่มองเรื่องคะแนนเป็นหลัก และมองเรื่องบุคคลเป็นรอง แม้จะสอนให้เป็นคนดี มีมารยาท เชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณครู แต่เพราะด้วยเหตุผลนี้ ทำให้นักเรียนไม่กล้าที่จะคิดต่าง เมื่อคิดต่าง ครูจะมองว่าไม่เชื่อฟัง นักเรียนด้วยกันจะมองว่าเป็นตัวประหลาด เกิดความอับอายแม้ไม่ถูกลงโทษใดๆ ส่วนทางด้านครู จะมองนักเรียนในด้านคะแนน แม้จริงๆครูจะมองพฤติกรรมจริงๆของตัวนักเรียนตลอด ว่าเกเรหรือไม่ แต่เพราะมีคะแนนเป็นตัววัด ทำให้ครูสามารถมองออกว่านักเรียนเป็นคนดีหรือคนไม่ดีได้อย่างเดียว แต่มองไม่ออกว่าความสามารถจริงๆของนักเรียนคืออะไร เมื่อนักเรียนได้คะแนนน้อยในวิชานั้นๆ ครูจะพยายามสอนให้นักเรียนคนนั้นทำคะแนนให้สูงขี้นให้ได้ โดยเพราะกังวลว่านักเรียนจะมีปัญหาเรื่องจบการเรียน มากกว่าจะถามว่านักเรียนเต็มใจที่จะเรียนหรือไม่ ด้วยระบบคะแนนเป็นตัวกำหนดชะตากรรมชีวิตของครูและนักเรียนทุกคน ทำให้ครูไม่สามารถสอนในแบบที่ครูสอนได้ แต่จะสอนเพียงเพื่อให้นักเรียนทำคะแนนให้สูงขึ้นได้เท่านั้น เป็นวัฎจักรการศึกษา ที่ทำให้ครูไม่ประสบความสำเร็จในการสอน และนักเรียนไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนได้ ด้วยระบบคะแนน
ประการที่สี่ สำคัญที่สุด ความสมัครใจของผู้เรียน แม้จะใช้เวลาเรียนเพียง 2 ชั่วโมงต่อวัน แต่เชื่อสิ ถ้าผู้เรียนเต็มใจกับมัน ย่อมได้อะไรใหม่ๆจากสิ่งนั้นมากกว่านั่งเรียน 20 ปีเพียงเพื่อเอาตัวรอดกับการศึกษาไปวันๆอยู่แล้ว
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางด้านวัตถุ แต่เกิดความเสื่อมทางด้านจิตใจ ค่านิยมและสังคมคนไทยประพฤติปฏิบัติที่แสดงถึงความเสื่อมทางจิตใจอย่างเห็น ได้ชัดเจนหลายประการ เช่น นิยมวัตถุ นิยมความหรูหราฟุ่มเฟือย ยกย่องคนรวย โดยไม่คำนึงถึงว่าจะร่ำรวยมาได้โดยวิธีใด เกิดการแข่งขันเอารัดเอาเปรียบ ไม่คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม การเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบนี้นอกจากจะเบียดเบียนกันเองแล้ว ยังเบียดเบียนรุกรานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ที่ดิน ป่าไม้ แม่น้ำ สภาพธรรมชาติ ถูกรุกราน ยึดครอง ถูกทำลาย สภาพน้ำเน่าเสีย สภาพคนจนอยู่ใน สลัมท่ามกลางตึกสูงอันหรูหราใหญ่โต สภาพความยากจนแร้นแค้นของคนในชนบท และสภาพเสื่อมโทรมทางสังคม อันเกิดจากความเสื่อมทางจิตใจมีมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากปัญหายาเสพติด โสเภณี โรคเอดส์และปัญหาอื่น ๆรวมถึงการละเลยด้านศาสนา และประเพณี
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
ความมีกัลยาณมิตร คือมีครูดี หรือว่ามีเพื่อนดี
ความมีโยนิโสมนสิการ คือเจ้าตัวต้องคิดเป็นด้วย
มาสโลว์ ได้กล่าวไว้ว่า
1. เด็กมีความสุข สะดวกสบายในการเรียน -ครูใจดี บรรยากาศการเรียนมีความสุข ไม่อึดอัด
2. เด็กรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น -ครูให้ความมั่นใจ เอาใจใส่ดูแล ให้ความรักความเมตตา
3. เด็กได้ความรัก ความเอาใจใส่จากครู - ครูใช้คำพูดเสริมแรง ให้กำลังใจ ชื่มชมยกย่องเมื่อทำงานสำเร็จ เปิดใจกว้างยอมรับฟังเหตุผลของนักเรียนทุกคน
4. เด็กได้รับความภาคภูมิใจ ชื่นชมในตนเอง - ครูจัดการเรียนรู้ตามศักยภาพเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนได้พบกับความสำเร็จตามความสามารถของตนเอง หาวิธีการนำส่วนที่ดีของแต่ละคนมาใช้ประโยชน์ ในการทำงานกลุ่ม
5. เด็กได้ทำในสิ่งที่ตนเองปรารณาสูงสุด -ครูให้อิสระในการเรียนรู้การสร้างสรรค์ผลงานในระบบกลุ่มร่วมมือทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ทุกคนมีความสำคัญ ได้รับการยอมรับในคุณค่าของตนเอง