ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสังคมศึกษา
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
06-มิถุนายน-2538
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
สาขา :
ครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
การศึกษาไทย เป็นการศึกษาที่ควรได้รับการพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อย่างเร่งด่วน ดิฉันมองว่าการศึกษาไทยมีการวางระบบที่ดี วางรากฐานที่มั่นคง เพียงแต่ทำได้แค่ในเชิงนโยบายเท่านั้น ในความเป็นจริง นักเรียน คุณครู ทัศนคติของคนในสังคม ไม่เอื้ออำนวยต่อระบบการศึกษาของไทย ขอยกตัวอย่างเช่น ครูที่ถูกระบบการศึกษา ผู้ปกครอง รวมไปถึงสังคม คาดหวังว่าจะสอนนักเรียนให้เก่ง ให้ตรงตามความต้องการของสังคม แต่ในความเป็นจริงภาระงานต่างๆ ไม่เอื้อต่อครู รวมไปถึงนักเรียนเองในปัจจุบัน ความใฝ่รู้มีน้อย สิ่งเร้าต่างๆที่ดึงดูดความสนใจไปจากเด็กมีมาก การศึกษาไทยจึงควรได้รับการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แต่การศึกษาไทยมีข้อดีอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ทุกโรงเรียนปลูกฝังคุณธรรมค่านิยมความเป็นไทย ในเรื่องความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงการทำนุบำรุงศาสนาของตนเอง
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
สังคมไทยในปัจจุบันเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมของเทคโนโลยีมากขึ้น คนติดต่อสื่อสารกันมากขึ้นผ่านทางช่องทางออนไลน์จาก สื่อออนไลน์เข่น Facebook line เป็นต้น สภาพสังคมในปัจจุบันประชาชนจึงเข้าถึงข่าวสาร ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน เพียงแต่คนในสังคมส่วนใหญ่ที่เข้าถึงข่าวเหล่านั้น บางครั้งไม่ได้ ไตร่ตรองข่าวสาร วิเคราะห์หาข้อเท็จจริงกับข้อมูลที่ตนเองได้รับ ทำให้เกิดความแตกตื่น ตื่นตัว หรือมีความเชื่อที่ผิดไปจากที่ควรจะเป็น แต่ในบางครั้งเทคโนโลยีก็ช่วยสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น ในสภาพสังคมที่ไม่ยุติธรรม และเมื่อเทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้น วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนส่วนมากก็เปลี่ยนไป ในด้านการแต่งกาย คำพูด รวมถึงทัศนคติ ดิฉันมองว่าสภาพสังคมในปัจจุบันสื่อออนไลน์มีอิทธิพลต่อความคิดของคนในสังคม แต่สังคมเช่นนี้กลับมีข้อเสีย ดิฉันมองว่าสังคมในปัจจุบันพ่อแม่ผู้ปกครองนำเอาโทรศัพท์ มาเป็นพี่เลี้ยงของลูก มาเป็นคนดูแลลูก ต่างจากเมื่อก่อนที่ให้เวลากับลูก ไม่เพียงแค่เด็กเท่านั้นที่กำลังติดเทคโนโลยีที่อยู่ในโทรศัพท์ พ่อแม่เองก็ติดเทคโนโลยีเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้จะก่อให้เกิดปัญหาสังคมในอนาคตแน่นอน หากพ่อแม่ผู้ปกครอง ยังให้ลูกใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ไม่มีการให้คำแนะนำ หรือติดตามพฤติกรรมของลูกหลานตนเอง ฉะนั้นสภาพสังคมในปัจจุบันในทัศนคติของดิฉันจึงคือสังคมกำลังเปลี่ยนแปลงเพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวันของคนไทย และก็ได้สร้างค่านิยมการให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือโดยขาดการดูแลเอาใจใส่ ซึ่งในอนาคตเด็กได้เรียนรู้หรือดูสิ่งที่รุนแรง ไม่เหมาะสมโดยขาดคนชี้แนะก็จะเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ หรืออาจจะขาดความสนใจในการเรียน เพราะติดโทรศัพท์หรือติดเกม ต่างๆ ซึ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลต่ออนาคตของประเทศชาติอย่างแน่แนอน
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการ เป็นคุณธรรมที่จะพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น กัลยาณมิตรนั้น เป็นคุณธรรมที่คนเป็นครูควรจพยึดถือเป็นคุณธรรมประจำใจ เพราะเป็นธรรมที่ทำให้มีมิตรมาก มิตรในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแต่เพื่อน แต่หมายถึงนักเรียน หากครูมีกัลยาณมิตรศิษย์ก็จะอยากเข้าใกล้ อยากเรียนกับครู ส่งผลให้การเรียนเกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น เพราะนักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อครู ไม่ต่อต้าน ให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนรู้ เมื่อเกิดปัญหาก็จะเข้าหาครู มีครูเป็นที่ปรึกษา ครูเองก็จะสอนนักเรียนให้เข้าใจมากขึ้น อธิบายในสิ่งที่ยากให้นักเรียนเข้าใจง่ายขึ้น และไม่แนะนำนักเรียนไปในทางที่ไม่ดี ส่วนหลักธรรมโยนิโสมนสิการเป็นหลักธรรมที่ทุกคนควรจะมี เพราะมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นผู้ไตร่ตรองด้วยเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ โดยไม่คิดทบทวนก่อน สุดท้ายก็จะไม่ถูกหลอกลวง และสามารถแยกแยะข้อเท็จจริงได้ สำหรับนักเรียนนั้น หากปกิบัติตามหลักโยนิโสมนสิการได้ก็จะทำให้การเรียนดีขึ้น เพราะมีกระบวนการคิดไตร่ตรองเมื่อครูสอน ไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ เมื่อฝึกฝนบ่อยๆจนกลายเป็นความเคยชินนักเรียนก็จะมีลักษณะนิสัย เป็นคนมีเหตุผล รู้จักศึกษาหาข้อมูลอยู่เสมอ ไม่หลงเชื่อข่าวต่างๆง่ายๆ สามารถแยกแยะผิดชอบได้ ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี และหากไตร่ตรองในสิ่งที่ครูสอนอยู่เสมอว่าจริงเท็จ น่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ก็จะทำให้นักเรียนมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ มากขึ้น เข้าใจมากขึ้นเพราะเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมาย ได้ศึกษาความรู้นั้นๆด้วยตนเอง ต่อไปในอนาคตนักเรียนย่อมเป็นอนาคตที่ดีของชาติอย่างแน่นอน