ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูสอนประวัติศาสตร์
เงินเดือนที่ต้องการ :
15,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
10-กรกฎาคม-2540
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
ได้รับรางวัลบทความดีเด่น ในการเขียนบทความทางวิชาการ เรื่อง นโยบายชาตินิยมผ่านการแต่งกายในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม พ.ศ. 2481-2487 |
ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม |
2561 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
สาเหตุที่ลาออก 1 :
เนื่องจากครบกำหนดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญกับสังคมไทยมาอย่างยาวนานและมักมีการปลูกฝังให้เด็กไทยต้องมีการศึกษาที่ดี อย่างไรก็ตาม การศึกษานับว่ามีประโยชน์ในชีวิตของเราอย่างมากซึ่งช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด ในประเทศไทยมีจำนวนนักเรียนและสถานศึกษาจำนวนมากทั้งของภาครัฐและเอกชน มีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับยุคสมัยอยู่เรื่อยมา แต่ขณะเดียวกันการปรับปรุงหลักสูตรก็กลายเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของการศึกษาไทยเช่นกัน เนื่องจากเนื้อหาที่นำมาให้เรียนนั้นมีความยากง่ายไม่เหมาะกับช่วงวัย โดยเฉพาะระดับประถมศึกษาที่เนื้อหาการเรียนนั้นยากเกินไปซึ่งอาจจะส่งผลต่อไปในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และอาจจะทำให้พื้นฐานการเรียนรู้ของเด็กบางกลุ่มพัฒนาไปช้ากว่า ปัญหาที่พบในการศึกษาไทย คือ
- ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เกิดขึ้น โดยรัฐจะให้ความสำคัญกับโรงเรียนมีชื่อเสียงขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมในการพัฒนามากกว่าโรงเรียนในชนบท ดังจะเห็นได้จากโรงเรียนในชนบทที่ห่างไกลที่ได้รับการพัฒนายังไม่ค่อยทั่วถึง เช่น โรงเรียนชนบทขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนน้อยก็จะยุบรวมโรงเรียนไปรวมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ทำให้เด็กในชนบทที่ยากจนพลาดโอกาสทางการศึกษา รวมถึงการสนับสนุนทางด้านอุปกรณ์การเรียนที่ไม่เพียงพอ
- การเรียนการสอนในโรงเรียน ซึ่งจะเห็นได้จากในแต่ละวันมีรายวิชาที่เรียนอย่างอัดแน่น ประกอบกับให้นักเรียนเข้ากิจกรรมที่เกินความเป็นมากเกินไป รวมทั้งครูผู้สอนได้รับผิดชอบการสอนที่เยอะเกินไปอาจจะทำให้การสอนไม่ครบถ้วน ผลที่ตามมาคือ ผู้เรียนไม่เข้าใจสิ่งที่เรียนมาจึงเป็นการผลักภาระให้ผู้ปกครองที่จะต้องส่งเสียให้นักเรียนได้เรียนพิเศษเพิ่มเติม นอกจากนี้ครูผู้สอนเองมีการให้นักเรียนมาเรียนพิเศษกับตนนอกรอบอีกด้วยซึ่งก็เป็นปัญหากับเด็กบางกลุ่มที่ไม่อยากเรียนและไม่มีเงินเรียน จากที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานและปัจจุบันก็ยังมีอยู่
- การสอนแบบท่องจำ การเรียนที่ดีควรเป็นการเรียนที่ไม่ใช่การท่องจำ แต่ควรเป็นการเรียนที่ส่งเสริมให้รู้จักการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ และการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสมเหตุสมผลให้เหมาะกับช่วงวัย รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นด้วยของตนเอง เป็นต้น
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ความเป็นสมัยใหม่เข้ามามากขึ้น เกิดการยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความแตกต่าง โดยมีสิ่งที่ทำให้ผู้คนจากต่างถิ่นใกล้ชิดกันมากขึ้นนั่นคือ การเข้ามาของเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันรวมถึงการศึกษาของไทยด้วย การเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้เกิดการเรียนรู้ที่นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน ช่วยให้เรียนรู้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงง่าย ผู้ที่เกี่ยวข้องทางการศึกษามีการสนับสนุนให้การเรียนการสอนสะดวกกับนักเรียนและครูผู้สอนโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการศึกษา เช่น การเรียนผ่านระบบออนไลน์ การสืบค้นข้อมูลที่ค้นคว้าได้ง่าย การส่งงานแบบออนไลน์ สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ในการเข้าถึงที่รวดเร็ว แต่ในทางกลับกันการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีกับการศึกษาของไทยยังมีจุดอ่อน คือ การเรียนแบบออนไลน์ที่ไม่ได้ทั่วถึงจริงๆ ซึ่งยังมีเด็กหลายกลุ่มที่ขาดสื่อทางเทคโนโลยีสำหรับการเรียน อีกทั้งการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตทำให้ผู้เรียนไม่คำนึงถึงข้อมูลที่ถูกต้องและไม่มีการตรวจสอบอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดในเนื้อหาของการเรียน จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นการศึกษาของไทยยังต้องมีการปฏิรูปโดยการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้เป็นสากลและมีเนื้อหาการเรียนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ มากกว่าการท่องจำ เน้นให้ผู้เรียนเข้าใจและเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระในการเรียนด้วย
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :
หลักกัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการสามารถนำมาบูรณาการเข้ากับการศึกษาของไทยได้ทั้งกับสภาพสถานศึกษา คุณภาพของครู และหลักสูตรการสอนซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนใช้วิธีคิดวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์และแก้ปัญหาด้วยตนเอง หลักกัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการที่ครูผู้สอนสามรถนำมาใช้โดยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ถ่ายทอดความรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นผู้มีกัลยาณมิตรที่ควรแก่การเคารพ มีการการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม อดทนต่อถ้อยคำและพร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาจากผู้เรียน คำเสนอแนะการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ด้วยความเข้าใจ สามารถอธิบายเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนให้เข้าใจได้ รวมทั้งมีความยุติธรรมเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน ไม่ลำเอียงในการถ่ายทอดความรู้ รับฟังข้อเสนอและความต้องการของผู้เรียน ต้องมีการพัฒนาและเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ ขณะเดียวกันผู้เรียนต้องมีความพร้อมในการศึกษาที่จะเรียนรู้ไปกับครูผู้สอนด้วย